PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

(ย้อนหลัง2555)กับดักเลือด?


กับดักเลือด?
บทความ วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 21:33น.
417866
น่าสนใจ ที่ยิ่งงวดใกล้วันกำหนดชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม 24 - 25 พ.ย. 2555 แต่ละฝ่ายอันเป็น "คู่ขัดแย้ง" ก็ยิ่งเร้าสถานการณ์ความรู้สึกของสังคมให้ขมึงเกลียวมากขึ้น กับความหวาดวิตกว่า สถานการณ์จะรุนแรงบานปลายจนกลายเป็นเหตุการณ์จลาจล แผ่นดินเมืองหลวงลุกเป็นไฟ คนเจ็บตายจำนวนมาก ประเทศเสียหาย ถูกประณามไม่เชื่อมั่น ทุนหนี อย่างเช่นอดีตที่แรงสุดๆ เมื่อปี 2553 หรือไม่
อย่าลืมว่า สถานการณ์ในอดีตนั้น กว่าจะคลายตัวลงได้ ใช้เวลามากมายเป็นสิบปี แม้กระทั่งบัดนี้ บาดแผลความแค้น ย้อนหลังไปก่อนหน้าก็ยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งฝ่ายสีเหลือง หรือแดง ที่อาจเป็น "เหตุผล - เงื่อนไข" หนึ่ง ของการที่ฝ่ายการเมือง สามารถเขี่ยเชื้อไฟประทุให้จุดติดลุกโชนได้ โดยไม่ต้องอาศัยเหตุผลอะไรมากมาย ดังที่ "เสธ.อ้าย"ถูกวางตัวออกมาในบทนำการจุด "คบเพลิง" ที่สนามม้านางเลิ้ง และกำลังขยายลุกลามออกมาสู่ลานพระบรมรูปทรงม้า หนนี้
อาจดูทะแม่งอยู่บ้าง กับการออกมาให้ "ข่าวลับ" ในที่แจ้ง ของหน่วยงานความมั่นคง ไล่ตั้งแต่ ผบ.ตร. ที่ทิ้งหัวเชื้อ เสนอให้รัฐประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในการรับมือกับสถานการณ์ชุมนุม เนื่องจากมีข้อมูลการเตรียมสร้างสถานการณ์ไปสู่ความรุนแรง
กระทั่งมีการออกมาของ เลขาฯสมช. ที่เปิดข้อมูลต่อสาธารณะอย่างไม่กลัว "เสียลับ" ว่า พบว่ามีการจ้าง "แดงเทียม"ประมาณ 5,000 คน เพื่อมาป่วนการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม โดยพบเบาะแสมีการกว้านซื้อเสื้อสีแดงเพื่อการนี้
โดย "แดงเทียม" ที่ว่า มีการขยายข้อมูลนี้ต่อมาว่า อาจเกี่ยวของกับ "มือที่สาม" ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์แทรกแซงการชุมนุม โดยใช้วัตถุระเบิด ซึ่งความนี้ ดันไปสอดรับกับการปูดข้อมูลว่า จะมีการใช้ M79 ยิงถล่มม็อบ จากกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ซึ่งต่อมามีการโยงไปถึงข้อกล่าวหาว่า มี "ทหารนอกเครื่องแบบ" ลาพักร้อนนับพันๆ คน จากค่ายทหารต่างๆ เพื่อเข้ามาสมทบสถานการณ์ และอาจนำไปสู่ปฏิบัติการ "ยึดอำนาจ" รัฐบาล โดยการบุกควบคุมกุมนายกฯ และรัฐมนตรี รวมถึงแกนนำแดงหลายคน
น่าสนใจว่าข้อมูลนี้ ยังมีการขยายต่อจากทางด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสันติบาล (20 พ.ย.) โดย"พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่แถลงอ้างข้อมูลด้านการข่าวของ "ตำรวจสันติบาล" ยืนยันว่า ในการชุมนุมจะมีผู้มาร่วมชุมนุมกว่า 50,000 คน โดยส่วนหนึ่งมีการจ้างผู้ชุมนุมระยะใกล้ 300 บาท และไกล 1,000 - 1,500 บาท ไม่รวมค่าเดินทาง และจะมีจัดรถรับ - ส่ง เป็นรถตู้ รถโดยสารขนาดใหญ่
นอกจากนั้น พบข้อมูลมีการจัดเตรียมอุปกรณ์บางอย่าง เช่น ร่มด้ามแข็งพับได้ น้ำส้มสายชู แว่นกันสารเคมี หรือแว่นตาว่ายน้ำ จัดเตรียมอาหารดำรงชีพได้ 2 - 3 วัน ผ้าขนหนู ขวดน้ำเกลือ เสื้อผ้าติดตัว วางระบบการเดินทางไว้อย่างดี มีจุดนัดพบ จุดรวมพล จุดนัดหมาย เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน การปฏิบัติตัวหากมีเหตุฉุกเฉินว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเกิดเหตุไม่สงบ
นอกจากนี้ ยังมีการออกมาระบุ โดยอ้าง "หน่วยข่าว" อีกว่า เป็นไปได้ที่จะมี "มือที่สาม" แทรกแซงการชุมนุม โดยใช้วัตถุระเบิด และมีการนัดแนะว่า หากเกิดเหตุ ให้หาที่ปลอดภัย 3 จุด คือ สนามเสือป่า วัดเบญจมบพิตรฯ และรอบพื้นที่สถานที่สำคัญ และเมื่อเหตุการณ์สงบ ให้ไปรวมตัวที่สนามม้านางเลิ้ง ซึ่งมีกระแสข่าวระบุว่า การสร้างสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อสร้างเงื่อนไขให้เกิดการเคลื่อนไหวจากกองทัพ ที่เป็นเหตุให้ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา"ผบ.ทบ. ต้องออกมา "ออกตัว" ทั้งเรื่องข่าวการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง และปรามกำลังพลไม่ให้ไปยุ่งกับม็อบ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เหล่านี้ รัฐบาล และเสื้อแดง ที่มีจุดร่วมเรื่องการต้านการรัฐประหาร แสดงออกชัดเจนว่า"ไม่ยอม" และพร้อมชนกับฝ่ายปฏิปักษ์ ที่ก่อการนำไปสู่ "เงื่อนไข" การชิงอำนาจรัฐกลับ โดยวิธีการ "ไม่ปกติ" ของบรรดา "ตัวละครหลังม่าน" คนเดิม ดังที่พวกเขาประเมิน
โดยเสื้อแดง ได้มีการจัดชุมนุมล้อมเมืองหลวง และสำแดงพลังมวลชน เพื่อชิมลาง ที่ จ.สมุทรปราการ ขณะที่รัฐบาลเอง ปรากฏคำสั่งผ่านไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ นายอำเภอ ให้สกัดม็อบที่เข้ามาสมทบ "เสธ.อ้าย"
น่าสนใจในความอึกทึกครึกโครมหนนี้ ที่รัฐบาลถูกวิพากษ์ว่า "โอเวอร์รีแอค" เกินไปหรือไม่ กับการข่าวที่บ่งชัดในปฏิบัติการ เป้าหมายของการชุมนุมของม็อบ "เสธ.อ้าย" มีเจตนาหรือประสงค์ใด หรือเป็นสคริปที่จะเกิดจริง และเมื่อเกิดขึ้นใครเป็นคนเขียน
ไม่ควรลืมว่า "เสธ.อ้าย" เป็นายทหารที่มีหลักคิดยุทธวิธีทางทหาร ที่ฝ่ายแดงพยายาม กล่าวหาว่า เสธ.อ้าย ไม่ศรัทธาเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย หากแต่มุ่งหมายไปที่การเปลี่ยนแปลงโดยวิธีการทหารแบบการรัฐประหาร ดังที่เขาเคยเป็นหนึ่งในตัวละครร่วมกับ "ยังเติร์ก จปร.7" ปฏิบัติการรัฐประหารรัฐบาล สมัยนานมาแล้ว
ไม่ควรลืมว่า เหล่าบรรดาตัวละคร ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับ องค์การพิทักษ์สยาม ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ล้วนแล้วแต่เคยร่วมแผนปฏิบัติการกับ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่เลือดตกยางออก ครั้งมีการสลายการชุมนุม และเกิดเหตุระเบิดที่แถวรัฐสภา และด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล จน "สารวัตรจ๊าบ" และ "น้องโบว์" เสียชีวิต
ต้องไม่ลืมว่าครั้งนั้น ในลักษณะของการสะสมอุณหภูมิได้ถึงขั้น "สุกงอม" และหนครานั้น มีการสั่งให้มวลชนมีการเตรียมพร้อมเข้าโรมรันกับการสลายการชุมนุมของฝ่ายรัฐโดยตำรวจ
ที่ทำให้หนนี้ แม้การระบุของ เสธ.อ้าย จะไม่ขัดในเหตุผล "ความสุกงอม" หากแต่กลับชัดเจนในเชิง "ยุทธวิธี" ว่า จะใช้ม็อบระยะสั้นๆ และปิดเกมไปสู่การแช่แข็งประเทศไทยได้ใน 1 - 2 วัน ทั้งทีมงานที่มีการกระจายข้อมูล การสั่งเตรียมพร้อมรับการสลายการชุมนุม และรับมือกับเหตุจลาจลวุ่นวาย และระเบิด
นี่อาจเป็น "ข้อมูล" ที่ทำให้หน่วยข่าวกรอง สันติบาล นำไปประเมินเชื่อมโยง กระทั่งนำมาสู่การ "ปูดแผน" นำความลับมาเปิดในที่แจ้ง เพื่อ "ดักทาง" ปฏิบัติการในลักษณะสอดคล้องอดีต เพื่อสร้าง "เงื่อนไข" ปัจจุบัน ในขณะที่คู่ขนาน ก็มีการแจ้งความกล่าวหา "ตัวละครนำ" หลายคน ในฐาน "กบฏ"
และในทางหนึ่ง ก็เตรียมใช้ "มวลชนแดง" โอบล้อมม็อบกรุงเทพฯ อีกชั้นหนึ่ง และใช้ "องค์กรต่างประเทศ" และองค์กรอิสระในไทย เข้ามาจับตาเหตุการณ์ และสื่อสารออกไป พร้อมๆ กับการใช้กล้อง CCTV แบบเปิดและปิด จับตาความเคลื่อนไหวของม็อบ และกองทัพค่ายทหาร แบบเรียลไทม์ ถ่ายทอดสดผ่านสื่อของฝ่ายตน
ภายใต้ความหวาดระแวงว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเลวร้ายแบบโมเดลเดิม อันจะเป็น "เงื่อนไขเดียว" ที่จะนำไปสู่ความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ยิ่งกว่าเวทีซักฟอกในสภา ที่จะเป็นเพียง "เครื่องเคียง" หรือ "กับดัก" ในเชิงยุทธวิธี ตามข้ออ้างของฝ่ายการข่าวและเสื้อแดง นั่นคือ หากจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ "ประชาชน" ไม่ว่าฝ่ายใด สีไหน บาดเจ็บล้มตาย แม้แต่เพียงคนเดียวก็ตาม

ไม่มีความคิดเห็น: